“วัคซีน HPV” ป้องกันโรคอะไร? ฉีดกี่ครั้ง ตอนไหนบ้าง ?
"วัคซีนเอชพีวี หรือที่เรียกกันว่า วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก คือวัคซีนที่ใช้ฉีดเพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี ที่เป็นสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูก
ปัจจุบันมี 3 ชนิด ได้แก่ ชนิด 2 สายพันธุ์, ชนิด 4 สายพันธุ์ และชนิด 9 สายพันธุ์
วัคซีนเอชพีวีป้องกันโรคอะไรได้บ้าง
นอกจากป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้แล้ว ในเพศหญิงยังป้องกันมะเร็งของอวัยวะอื่นได้อีก ได้แก่
1. มะเร็งปากช่องคลอด ผนังช่องคลอด
2. ทวารหนัก
3. ช่องปากและคอหอย
ในผู้ชายวัคซีนสามารถป้องกัน
1. มะเร็งองคชาติ
2. ทวารหนัก
3. ช่องปากและคอหอย
นอกจากนี้วัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ และชนิด 9 สายพันธุ์ ยังสามารถป้องกันโรคหูดหงอนไก่ของอวัยวะเพศและทวารหนักของทั้งผู้หญิงและผู้ชายได้อีกด้วย
วัคซีนเอชพีวีฉีดอย่างไร
ฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป ควรฉีดก่อนถึงวัยที่มีเพศสัมพันธ์ หรือก่อนติดเชื้อไวรัสเอชพีวีซึ่งจะได้ประโยชน์ในการป้องกันสูงที่สุด กำหนดการฉีดวัคซีนเอชพีวีขึ้นกับอายุที่เริ่มฉีดวัคซีน ดังนี้
1. ก่อนอายุ 15 ปี (ก่อนวันเกิดครบอายุ 15 ปี) ฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 6-12 เดือน
2. หลังอายุ 15 ปี ฉีด 3 เข็ม ที่ 0, 2 และ 6 เดือน
3. ถ้ามีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง แนะนำให้ฉีด 3 เข็ม ที่ 0, 2 และ 6 เดือน โดยไม่คำนึงถึงอายุ
4. กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ฉีดวัคซีนเอชพีวี ในเด็กหญิงอายุ 11-12 ปี เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก โดยฉีด 2 เข็มห่างกัน 6-12 เดือน
5. หากเป็นวัคซีน 2 สายพันธุ์ ฉีด 3 เข็มที่ 0, 1 และ 6 เดือน
วัคซีนเอชพีวีมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง
1. วัคซีนมีความปลอดภัยสูง ยังไม่พบว่ามีการเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโดยตรง
2. อาการข้างเคียงที่พบบ่อยคือ ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีดยาซึ่งไม่รุนแรง และหายได้เองภายใน 2-3 วัน
3. อาการข้างเคียงอื่น ๆ ที่อาจพบ ได้แก่ ไข้ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ซึ่งไม่รุนแรงและหายได้เอง
ข้อแนะนำหลังฉีด
1. ควรสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีนแต่ละครั้งเป็นเวลา 15 นาที
2. ควรคุมกำเนิดหลังจากฉีดวัคซีนครบแล้วอย่างน้อย 1 เดือน
Q: ได้รับวัคซีนเอชพีวียังต้องมาตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกไหม ?
A: แม้ได้รับวัคซีนแล้ว เพศหญิงที่ถึงวัยจำเป็นต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ควรมาเข้ารับการตรวจตามปกติ"