PM 2.5 ตัวร้ายทำลายปอด ภัยเงียบที่คุณมองไม่เห็น!
“ทุกลมหายใจของคุณในวันนี้ อาจกำลังนำพาอนุภาคขนาดเล็กจิ๋วที่อันตรายเข้าสู่ร่างกายของคุณ” คำ ๆ นี้อธิบายสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเราคนไทยได้เป็นอย่างดี PM 2.5 ศัตรูเงียบที่แฝงตัวอยู่ในอากาศรอบตัว สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจได้ผ่านการใช้ชีวิตประจำวัน แม้คุณจะอยู่ในบ้านก็ยังต้องเจอกับ PM 2.5 ไม่ต้องพูดถึงการออกไปทำงานนอกบ้านที่ได้รับฝุ่นเข้าสู่ร่างกายเต็ม ๆ เป็นภัยที่คุกคามสุขภาพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้ตัวเราลดความเสี่ยงจาก PM 2.5 ได้ โดยในบทความวันนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักและเข้าใจถึงอันตรายที่แท้จริง เพื่อให้รู้ทัน และป้องกันได้ดียิ่งขึ้น
มาทำความรู้จัก ฝุ่น PM 2.5 คืออะไร
ฝุ่น PM 2.5 ชื่อเต็มคือ Particulate Matter With Diameter of Less Than 2.5 Micron คือ อนุภาคขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าเส้นผมมนุษย์ประมาณ 25 เท่า ด้วยขนาดที่เล็กมากนี้ ทำให้ PM 2.5 สามารถลอยอยู่ในอากาศได้นาน และแพร่กระจายไปได้ไกล อีกทั้งยังสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนลึกได้โดยตรงและส่งผลกระทบต่าง ๆ มากมายกับระบบภายในร่างกายของเรา PM 2.5 มีองค์ประกอบทางเคมี อย่างปรอท แคดเมียม อาร์เซนิก หรือโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน และอื่น ๆ
โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดให้เป็นสารก่อมะเร็ง กลุ่มที่ 1 เกิดจากปฏิกิริยาทางเคมีในบรรยากาศ ที่ก๊าซมลพิษต่างๆ รวมตัวกัน ความอันตรายของ PM 2.5 ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ผลกระทบต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การลดทัศนวิสัย การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบต่อระบบนิเวศ
PM 2.5 ในประเทศไทยมีแหล่งกำเนิดจากที่ใดบ้าง
ฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยมีแหล่งกำเนิดที่หลากหลาย โดยสามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก คือ แหล่งกำเนิดโดยตรงและแหล่งกำเนิดจากปฏิกิริยาทางเคมีในบรรยากาศ การเกิด PM 2.5 โดยตรงมาจากกิจกรรมของมนุษย์เป็นหลักไม่ว่าจะเป็นการเผาในภาคการเกษตร การเผาขยะในที่โล่ง และการเผาไหม้เชื้อเพลิงในภาคอุตสาหกรรมและการคมนาคม รถยนต์ เป็นต้น ส่วนแหล่งกำเนิดจากปฏิกิริยาทางเคมีในบรรยากาศ จะเกิดขึ้นเมื่อก๊าซมลพิษต่างๆ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และออกไซด์ของไนโตรเจน ทำปฏิกิริยากับความชื้นและแสงแดด
- การเผาในภาคการเกษตร : เกษตรกรมักเผาเศษวัสดุทางการเกษตรเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก โดยเฉพาะในภาคเหนือของประเทศไทย การเผาไหม้ก่อให้เกิดอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กจำนวนมาก ซึ่งสามารถลอยตัวอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานาน
- ภาคการคมนาคมขนส่ง : การเผาไหม้เชื้อเพลิงที่ไม่สมบูรณ์ในเครื่องยนต์ โดยเฉพาะรถดีเซล ปล่อยอนุภาค PM 2.5 โดยตรง
- ภาคอุตสาหกรรม : PM 2.5 ที่เกิดจากโรงงานอุตสาหกรรมการผลิต มาจาก 2 สาเหตุใหญ่ คือ การเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อผลิตพลังงานใช้ภายในโรงงานอุตสาหกรรม และการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรม
- การเผาในที่โล่งในเขตชุมชน : การเผาขยะ การปรุงอาหารในร้านอาหารริมทาง และการจุดธูปในศาสนสถาน เป็นกิจกรรมในชีวิตประจำวันที่ก่อให้เกิด PM 2.5 ในพื้นที่เมืองได้เช่นกัน
- ปัจจัยทางธรรมชาติ : ไฟป่า การพัดพาฝุ่นละอองข้ามพรมแดนจากประเทศเพื่อนบ้าน และการเกิดปฏิกิริยาเคมีในบรรยากาศ เป็นแหล่งกำเนิด PM 2.5 ที่ควบคุมได้ยาก แต่มีผลกระทบต่อคุณภาพอากาศในประเทศไทยได้เช่นกัน
อันตรายที่แฝงมากับ ฝุ่น PM 2.5
ด้วยขนาดที่เล็กมากของ PM 2.5 นี้ทำให้มันสามารถแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ไม่ว่าจะผ่านทางระบบทางเดินหายใจ และไปยังถุงลมฝอยและแทรกซึม ผ่านเข้าไปยังหลอดเลือดฝอย และสุดท้ายสามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายระบบของร่างกาย ตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงโรคร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต การสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ทั้งในระยะสั้นและระยะยาวล้วนมีความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว
1.อาการทั่วไปเมื่อร่างกายได้รับฝุ่น PM 2.5
อาการเบื้องต้นที่พบได้บ่อยเมื่อสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 มักแสดงออกผ่านระบบทางเดินหายใจส่วนต้นและดวงตา เนื่องจากเป็นอวัยวะที่สัมผัสกับฝุ่นละอองโดยตรง ทำให้เกิดการระคายเคืองและการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น การไอ จาม คอแห้ง แสบคอ ตาแดง และอาจมีอาการหายใจมีเสียงวี้ดร่วมด้วย นอกจากนี้ผิวหนังอาจเกิดการตอบสนองจนเกิดเป็นผื่นได้ทั่วร่างกาย
2.ผลกระทบต่อระบบประสาท
ในระบบประสาทฝุ่น PM 2.5 สามารถก่อให้เกิดการอักเสบของหลอดเลือดสมองได้ เมื่อฝุ่นละอองเข้าสู่กระแสเลือด จะกระตุ้นให้เกิดกระบวนการอักเสบและการสร้างลิ่มเลือด ส่งผลให้เส้นเลือดในสมองตีบแคบลง ลดการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมอง หากเกิดการอุดตันอย่างรุนแรงอาจนำไปสู่ภาวะอัมพฤกษ์หรืออัมพาตได้
3.ผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
เมื่อฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่ร่างกาย จะกระตุ้นการอักเสบของผนังหลอดเลือด ทำให้เกิดการสะสมของไขมันและการแข็งตัวของหลอดเลือดได้ง่ายขึ้น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เส้นเลือดหัวใจตีบ และภาวะหัวใจล้มเหลว การที่ร่างกายได้รับฝุ่น PM 2.5 เพิ่มขึ้นทุก ๆ จำนวน 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดถึง 10-15%
4.ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ
ระบบทางเดินหายใจได้รับผลกระทบโดยตรงจากฝุ่น PM 2.5 เนื่องจากฝุ่นละอองสามารถแทรกซึมเข้าสู่ถุงลมปอดได้ลึก ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และทำลายเนื้อเยื่อปอด โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว เช่น โรคหอบหืด หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง อาจมีอาการกำเริบรุนแรงจนเป็นอันตรายถึงชีวิต ฝุ่น PM 2.5 เป็นสาเหตุโดยตรงของการเกิดมะเร็งปอด
วิธีปกป้องตัวเองจาก ฝุ่น PM 2.5
1.งดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 มาก
การงดกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 มีปริมาณมากเป็นวิธีที่ดีในการลดการสัมผัสกับฝุ่นละออง เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 มักมีความเข้มข้นสูงในอากาศภายนอกโดยเฉพาะในวันที่อากาศนิ่ง การสัมผัสฝุ่นโดยตรงจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการสูดดมอนุภาคขนาดเล็กเข้าสู่ร่างกาย การที่เราอยู่ในอาคารที่มีการปิดกั้นจากอากาศภายนอกจะช่วยลดการสัมผัสกับฝุ่นได้อย่างมาก
2.การสวมหน้ากากอนามัย N95
การสวมหน้ากากอนามัยมาตรฐาน N95 เป็นการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากหน้ากากประเภทนี้ถูกออกแบบให้กรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน ทำให้สามารถดักจับฝุ่น PM 2.5 ได้ดีกว่าหน้ากากอนามัยทั่วไป โดยเราควรสวมใส่ให้กระชับและเปลี่ยนทุกวัน หรือเปลี่ยนเมื่อใช้งานในระหว่างวันนานเกินไป
3.เสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
การดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกายและรับวัคซีนช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย การออกกำลังกายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอดและระบบไหลเวียนเลือด ทำให้ร่างกายสามารถกำจัดสารพิษที่สะสมได้ดีขึ้น ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคระบบทางเดินหายใจจะช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อที่อาจรุนแรงขึ้นเมื่อร่างกายอ่อนแอจากการสัมผัสฝุ่น
4.เครื่องฟอกอากาศ
เครื่องฟอกอากาศที่มีคุณภาพดีมาตราฐานจะสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้มากกว่า 99% รวมถึงฝุ่น PM 2.5 เราควรเลือกใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน และมีระบบกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air) จะช่วยลดปริมาณฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำเพิ่มเติมคือเราควร ปิดประตู หน้าต่าง และใช้เครื่องฟอกอากาศ
ในเบื้องต้นอยากให้ทุกคนตระหนักถึงสิ่งสำคัญก่อนว่า ฝุ่น PM 2.5 เป็นภัยร้ายที่อยู่ใกล้ตัวมากๆ ซึ่งอีกหนึ่งในวิธีในการป้องกันตัวเอง คือการติดตามข่าวรายงานและสถานการณ์ของฝุ่น PM 2.5 อย่างสม่ำเสมอ เช่นจากเว็บไซต์ Air4Thai จากเว็บไซต์ AQI ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ
เพื่อที่จะได้วางแผนกิจกรรมในแต่ละวันให้เหมาะสมได้ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงการออกข้างนอกบ้านในวันที่ PM 2.5 สูง หรือ การสวมหน้ากากอนามัย N95 เป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีที่สุด หากจำเป็นต้องออกนอกบ้าน
by นพ. ธิติวัฒน์ ศรีประสาธน์ (Author)
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่
- มะเร็งปอด โรคร้ายคร่าชีวิต รักษาอย่างไรให้อาการดีขึ้น
- อันตรายจากฮีทสโตรก 5 สัญญาณเตือนที่ห้ามมองข้าม
- เคล็ดไม่ลับห่างไกลภาวะหัวใจล้มเหลว ทำอย่างไร?
- เช็กด่วน! คุณกำลังเข้าสู่ภาวะหมดไฟหรือไม่ พร้อม 10 วิธีแก้ไข
ติดตามข้อมูลข่าวสาร และการอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับ คอร์สเรียนแพทย์ ความรู้ทางการแพทย์ ได้ที่ Facebook: MDCU MedUMORE