โรค RSV อันตรายต่อสุขภาพที่เกิดขึ้นกับเด็กได้ทุกฤดูฝนตั้งแต่เดือน ก.ค. - พ.ย.

ฤดูฝน ตั้งแต่เดือน ก.ค. - พ.ย. เป็นช่วงที่สภาพอากาศที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมักเป็นซีซันที่มาพร้อมกับความชื้น เป็นช่วงเวลาที่ต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นฤดูกาลที่เหมาะต่อการแพร่เชื้อ RSV และมีการระบาดของ โรค RSV มากที่สุดในช่วงนี้ ซึ่งเด็กที่ได้รับเชื้อแล้วจะแพร่ต่อไปสู่คนอื่นได้ด้วยอุณหภูมิ และความชื้นซึ่งทำให้เชื้อโรคอยู่ได้นานขึ้น


โรค RSV คืออะไร?

โรค RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นเชื้อไวรัสที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ เมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะทำให้เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ซึ่งจะพบได้บ่อยในเด็กอายุน้อยกว่า 5 ปี และแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วทำให้เด็กป่วยด้วยโรคนี้พร้อมกันได้เป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะเป็นโรคที่มีอาการในระบบทางเดินหายใจ แต่โรค RSV มีความรุนแรงมากกว่า เพราะจะทำให้เด็กบางคนหอบเหนื่อย หรือมีภาวะปอดอักเสบร่วมด้วย สำหรับอาการเมื่อติดเชื้อไวรัส RSV จะมีอาการน้อยถึงอาการมากผู้ที่มีอาการจะมีดังนี้

  • มีไข้ขึ้นสูง ไอ จาม ร่วมกับมีน้ำมูก
  • หายใจเหนื่อยหอบ บางรายมีเสียงหายใจดังวี้ด หรือมีเสียง ครืดคราด และหน้าอกยุบ
  • ร้องผิดปกติ มีอาการซึมอย่างชัดเจน
  • เบื่ออาหาร ทานอาหารได้น้อยลง

การแพร่กระจายของเชื้อไวรัสชนิดนี้สามารถแพร่กันได้ผ่านละอองฝอย เช่น ไอ จาม โดยเชื้อไวรัส RSV จะออกทางจมูก ปาก และเยื่อบุตาทำให้เกิดโรค สำหรับเด็ก ๆ แล้วโอกาสที่จะได้รับเชื้อไวรัสชนิดนี้นั้นมักจะมาจากการสัมผัสสิ่งของ เช่น ของเล่น ภาชนะ เฟอร์นิเจอร์ที่มีการเปื้อนน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยมาก่อน ทั้งนี้เชื้อไวรัส RSV จะสามารถอาศัยอยู่ตามพื้นผิวบนสิ่งของได้นานถึง 1-30 ชั่วโมงหากไม่ได้รับการทำความสะอาด แต่ถ้าอาศัยอยู่บนมือจะอยู่ได้ประมาณ 30-60 นาที

วิธีป้องกันเด็กจากการแพร่ระบาดของโรค RSV

แม้ว่าฤดูฝนเป็นช่วงที่การระบาดสูงแต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลใจจนเกินไป เพราะสามารถป้องกันลูกน้อยจากโรค RSV ได้เช่นกัน สำหรับวิธีป้องกันที่ดีที่สุดสามารถทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้

  • ไม่ใช้ของร่วมกับเด็กคนอื่น
  • เด็กไม่สบายไม่ควรไปโรงเรียน หรือสถานเลี้ยงเด็ก
  • รักษาความสะอาด ล้างมือเป็นประจำ บางครั้งเชื้อโรคอาจมีการสะสมที่มือ ใบหน้า หรือเส้นผมของเด็กได้ ดังนั้นควรทำความสะอาดด้วยการล้างมือเป็นประจำ
  • ทำความสะอาดเครื่องใช้ของเด็ก โดยเฉพาะในโรงเรียน หรือสถานเลี้ยงเด็ก
  • โรค RSV ในเด็กยังไม่มีวัคซีนในการป้องกัน


แนวทางการรักษาโรค RSV

โรค RSV เป็นไวรัสจึงไม่มียาจำเพาะรักษาตามอาการและประคับประคองจนกว่าอาการจะดีขึ้น ซึ่งโรคนี้สามารถที่จะดูแลรักษาอาการจากที่บ้านได้ถ้าอาการไม่มาก แต่หากว่าอาการไม่ดีขึ้น หรือสังเกตเห็นว่าลูกเริ่มมีภาวะหายใจแรง หายใจดัง หอบเหนื่อยง่ายและไข้สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องพบแพทย์ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จำเป็นที่จะต้องคอยสังเกตอาการความผิดปกติของเด็ก ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะเมื่อมีอาการป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ ไม่ควรนิ่งนอนใจแม้ว่าจะยังไม่มีอาการที่รุนแรงมากก็ตาม

โรค RSV ตัวร้ายทำลายระบบทางเดินหายใจที่พ่อแม่ต้องระวัง

RSV เป็นอีกหนึ่งโรคที่มักจะมาทุกฤดูฝน ในช่วงเดือน ก.ค. - พ.ย. แต่จากข้อมูลทั้งหมดจะเห็นได้ว่า RSV เป็นโรคที่หายได้เอง หรือ ถ้าเป็นมากควรพบแพทย์ RSV เป็นแล้วเป็นอีกได้ การเป็นซ้ำครั้งที่ 2, 3 ความรุนแรงของโรคจะลดลง

by ศ. นพ.ยง ภู่วรวรรณ(Author)

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่

- รวม โรคในฤดูฝน ที่ควรระวัง พร้อมเคล็ดลับการป้องกันฉบับปี 2024

- รู้จัก วัณโรค โรคติดต่อที่รักษาได้ เผยวิธีการดูแลอย่างถูกต้อง

- เช็กให้ชัวร์ ! อาการใจสั่น สัญญาณเตือนโรค หรือแค่ความเครียด

- ไมเกรน คือ อะไร ปวดหัวไมเกรน เข้าใจและรับมือให้ถูกวิธี

ติดตามข้อมูลข่าวสาร และการอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ เกี่ยวกับ คอร์สเรียนแพทย์ ความรู้ทางการแพทย์ ได้ที่ Facebook: MDCU MedUMORE